Description

     สารสกัดจากสนนอร์เวย์ (Norwegian Spruce knots)หรือสนขาว ที่อุดมด้วย 7-hydroxymatairesinol (HMR) คือ ลิกแนน (Lignans) ธรรมชาติและบริสุทธิ์ ให้ประสิทธิภาพเสมือนEstrogen ผลิตด้วยนวัตกรรมในการส่งผ่านสารสำคัญเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง สดใส ลดเลือนริ้วรอย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับผิวให้ยืดหยุ่น กระชับ ผิวแน่นเอิบอิ่ม ให้ผิวเนียน นุ่ม และชุ่มชื้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

     สาร 7-hydroxymatairesinol (HMR) เป็นสารลิกแนน(Lignans) ลิขสิทธิ์เฉพาะของผู้ผลิตจากประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ให้ประสิทธิภาพเสมือนEstrogen ที่จะช่วยปรับสมดุล และรักษาผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส ผ่านการศึกษาวิจัยร่วมกับ forestry Institutions โดยไม่กระทบต่อธรรมชาติและมีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการผลิต

     NioSkin^TM HMRlignan ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านริ้วรอย สารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้น และสารผ่อนคลาย เป็นสารสกัดบริสุทธิ์ ช่วยปกป้องผิวและป้องกันความเสียหายของ DNA ผลิตภัณฑ์นี้ปราศจาก จีเอ็มโอ ,สารก่อภูมิแพ้, กลูเตน, แลคโตส และจากสารประกอบจากสัตว์ใดๆ NioSkin^TM HMRlignan เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด สำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

  คุณสมบัติ

ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของชั้นผิวหนัง ช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอย

ซ่อมแซมฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว (skin barrier)ให้แข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำและการเกิดริ้วรอย

ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ยาวนาน

ช่วยปกป้องริ้วรอยแห่งวัย

เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง

  การนำไปใช้

1. ใช้เป็นส่วนผสมในสูตรเครื่องสำอาง

  - ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ เช่น ลดเลือนริ้วรอย(Anti-aging) , Moisturizing Cream, Night Cream, Day Cream หรือ เซรั่มบำรุงผิวต่างๆ

  - ผลิตภัณฑ์ บาล์มและลิปสติก

  - ผลิตภัณฑ์ โลชั่น , บีบีครีม , แฮนด์ครีม , ครีมมากส์หน้า

  - ผลิตภัณฑ์ น้ำตบ

2. ใช้ภายนอกเท่านั้น

  การทดสอบประสิทธิภาพ

     ทำการทดสอบกับอาสาสมัครจำนวน 12 คน โดยทำการเปรียบเทียบ กับสูตรครีม O/W ที่ไม่มีส่วนผสม NioSkin^TM HMRlignan เป็นตัวควบคุม และสูตรที่ใส่ NioSkin^TM HMRlignan 2% ทาครีมที่ปลายแขนและใบหน้า วันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์

1. ทดสอบการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว และฟื้นฟูความชุ่มชื้น Skin barrier and fast hydration

  โดยประเมินการสูญเสียน้ำของผิวหนังชั้นนอก(TEWL)

ผลการทดสอบ

  - ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันผิวและความชุ่มชื้นได้อย่างมาก หลังใช้ 2 สัปดาห์

  - ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันผิวและความชุ่มชื้นได้สูงสุด หลังจากการใช้ 28 วัน

2. การทดสอบทางผิวหนัง Dermscan Test

  จากการศึกษาพบว่า หลังจากการใช้ครีมผ่านไป 28วัน, 56 วัน NioSkin^TM HMRlignan เพิ่มความหนาผิวหนัง(+4.8%) และเพิ่มความหนาแน่นของผิวหนัง(+8.4%) อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับPlacebo(ยาหลอก)

  ผลการทดสอบ บ่งชี้ว่า NioSkin^TM HMRlignan ส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างผิวหนัง

3. การทดสอบความยืดหยุ่นของผิวหนัง Skin elasticity test

  จากการศึกษาพบว่า หลังจากการใช้ NioSkin^TM HMRlignan 28วัน เทียบกับ Placebo(ยากหลอก) เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวอย่างมีนัยสำคัญและมีประสิทธิภาพ โดยวัดจากการลดลงของ Yong’s elastic modulus(E) -13.98% , Time Retention(R)-16.68% และ VE Viscoelasticity-13.88%

4. การวัดความชุ่มชื้นผิวหนัง Corneometric Hydration Test

  จากการศึกษาพบว่า NioSkin^TM HMRlignan ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวอย่างมีนัยสำคัญและมีประสิทธิภาพดัชนีความชุ่มชื้นแก่ผิวเพิ่มขึ้น (+16.48%) ที่การรักษาระยะสั้น(60นาที) และคงใว้การรักษาที่ 28 วัน ดัชนีความชุ่มชื้นแก่ผิวเพิ่มขึ้น (+15%)

5. การทดสอบสีผิว Visia test for skin tone

  หลังจากการรักษาด้วย NioSkin^TM HMRlignan เทียบกับPlacebo (ยาหลอก) NioSkin^TM HMRlignan ออกฤทธิ์อย่างมีนัยสำคัญในการปรับความเรียบเนียนของผิวหน้า และมีผลช่วยในการลดการอักเสบ Hypercromia และลดจำนวนจุด(spots)บนผิวหน้า ได้ในระยะเวลา 28 วัน พบว่า

6. การทดสอบการต่อต้านริ้วรอย Anti-wrinkle visia test

  หลังจากการรักษาด้วย NioSkin^TM HMRlignan เทียบกับPlacebo (ยาหลอก) พบว่าNioSkin^TM HMRlignan ทำให้ปริมาณริ้วรอยทั้งหมดลดลง(-37.7%) และริ้วรอยลดลงเพิ่มขึ้น (-22.3%) ในระยะเวลา 28 วัน

Technical Data

More Information

     สนนอร์เวย์ปรูซ (Norway Spruce) หรือ Picea Abies ซึ่งเป็นสนขาวชนิดหนึ่ง(White Pine) ที่คุ้นเคยกันคือ“ต้นคริสต์มาส” สนนอร์เวย์สปรูซ เป็นสายพันธุ์ต้นสนมีถิ่นกำเนิดในยุโรปตอนเหนือ ตอนกลาง และตะวันออก เป็นไม้เศรษฐกิจของยุโรปที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 35-55ม. เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นอยู่ที่ 1-1.5ม. ใบสนมีลักษณะเป็นเข็มปลายทู่ มีความยาว 12-24 มม. มีสีเขียวเข้ม มีอายุเฉลี่ยถึงประมาณ300ปี แต่มีรายงานการพบต้นสนนอร์เวย์ที่เรียกว่า “Old Tjikko” ที่มาอายุกว่า 9,550 ปี

     ลิกแนน (Lignans) เป็นสารอาหารที่พบได้ในเมล็ดธัญพืช ทุกชนิด (เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดดอกทานตะวัน) ถั่วชนิดต่างๆ ผักใบเขียว และผลไม้ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามปริมาณลิกแนน ที่พบในเมล็ดลินินมีมากกว่า พืชชนิดอื่นๆ ถึง 75-800 เท่าเลย ทีเดียว เป็นเหตุให้นักวิจัยให้ความสนใจกับลิกแนนมากเป็นพิเศษ

ประโยชน์ของลิกแนน

     ลิกแนนมีโครงสร้างทางเคมีชื่อว่า Secoisolariciresinol diglycoside ( SDG ) ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นสารสำคัญคือ Enterolactone ( EL ) และ Enterodiol ( ED ) โดยอาศัยแบคทีเรียในลำไส้

คุณสมบัติของสารเหล่านี้มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ( Phytoestrogen ) ดังนั้นจึงช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนได้ดี อาทิเช่น อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออก ในเวลากลางคืน หลับไม่สนิท ผิวพรรณและช่องคลอดแห้ง เป็นต้น นอกจากนี้ ลิกแนนยังมีคุณสมบัติด้านอื่นๆ อีกเช่น ป้องกันโรคหัวใจ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสและเชื้อรา ลดความเสี่ยงต่อการ เป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก บำรุง กระดูก และป้องกันโรคกระดูกพรุน

ลิกแนน ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ( Anti – oxidants ) พบว่า Enterolactone ( EL ) และ Enterodiol ( ED ) มีความแรงในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่า Vitamin E ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้นจึงมีผลลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอด เลือดและหัวใจ

ในปัจจุบันเมล็ดลินินถูกนำมาแปรรูปเป็นน้ำมัน ซึ่งให้กรดไขมันจำเป็นครบถ้วนทั้งชนิด Omega-3 และ Omega-6 และเป็นแหล่งของสารลิกแนน นอกจากนี้น้ำมันสกัดจากเมล็ดลินินยังเป็นทางเลือกสำหรับ ผู้ที่แพ้อาหารทะเล(น้ำมันปลา) แต่ต้องการกรดไขมันจำเป็นชนิด Omega-3